มหัศจรรย์ 9 เดือน’ เตือนภัย..
อย่าให้ บุหรี่ พิษร้าย ทำอันตราย
เจ้าตัวน้อย !
วินาทีแรกที่คนสองคนรู้ตัวว่ากำลังจะเป็นพ่อแม่นั้น แน่นอนว่าคงตื่นเต้นไม่น้อย โดยเฉพาะแม่ผู้ที่ต้องอุ้มท้องถึง 9 เดือน ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 9 เดือน ที่แม่ต้องอุ้มท้อง พ่อต้องคอยดูแลนั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่พ่อแม่ต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์มากที่สุดอย่างไรก็ดี นอกจากเรื่องอาารการกินแล้ว เรื่องที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ เรื่องของควันบุหรี่ที่พ่อหรือแม่บางคนยังคงสูบอยู่ หรือไม่ก็รับควันบุหรี่ในฐานะนักสูบมือสอง แต่ก่อนที่จะรับรู้ถึงผลร้ายของบุหรี่ มาดูกันก่อนว่า ช่วง 9 เดือน ของลูกนั้น ถ้าไม่ได้รับควันบุหรี่เลย จะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
เดือนที่ 1
แม้ว่าลูกจะยังไม่มีอวัยวะชัดเจน แต่ก็มีหัวใจและเนื้อเยื่อระบบประสาทแล้ว ซึ่งจะพัฒนาเป็นสมองและไขสันหลัง ทางเดินอาหาร
อวัยวะรับสัมผัส แขน ขา จะเริ่มก่อเป็นรูปร่าง รูปร่างของลูกน้อยคล้ายลูกอ๊อด และมีขนาดเท่าเมล็ด ข้าว
เดือนที่ 2หัวใจของลูกเริ่มทำงานแล้ว และมีการสร้างแขน ขา นิ้วมือ นิ้วเท้าเริ่มก่อตัว และเริ่มมีการสร้างกระดูก ลำตัวยาวประมาณ 1 – 1.5 นิ้ว
น้ำหนักประมาณ 10 กรัม
เดือนที่ 3
รูปร่างของลูกเริ่มชัดเจนมากขึ้น มีการพัฒนาของอวัยวะ เช่น ระบบการไหล เวียนเลือด และระบบขับถ่ายปัสสาวะ อวัยวะสืบพันธุ์เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่าง ลำ ตัวยาวประมาณ 2.5 – 3 นิ้ว น้ำหนัก 15 กรัม
เดือนที่ 4
ลูกน้อยเริ่มมีปฏิกิริยาทางร่างกาย เช่น การดูดและการกลืน ลำตัวเจริญมาก ขึ้น นิ้วมือและนิ้วเท้า เริ่มปรากฏชัด เนื้อเยื่อฟันเริ่มก่อตัว ลำตัวยาวประมาณ 4 นิ้ว
เดือนที่ 5
ลำตัวของลูกเริ่มมีขนอ่อนปกคลุม เริ่มมีผมที่ศีรษะและขนคิ้ว มีไข ปกคลุมตามตัว ลำตัวยาวประมาณ 8 – 10 นิ้ว
เดือนที่ 6
ใบหน้าของลูกมีการพัฒนาจนสมบูรณ์ ปิดเปิดตาได้ เริ่มมองเห็นนิ้วมือและ นิ้วเท้าชัดเจน แต่ปอดยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ลำตัวยาวมากขึ้น น้ำหนัก 800 กรัม
เดือนที่ 7
มีการสร้างเม็ดเลือดแดง และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ลูกสามารถดูดนิ้วหัวแม่มือตัวเองได้ ร้องไห้ได้ ตอบรับการกระตุ้นได้ดี โดยเฉพาะความเจ็บปวด แสง สว่าง และเสียงดัง น้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม
เดือนที่ 8
ลูกจะมีขนาดศีรษะโตเต็มที่ สามารถได้ยินเสียงและมองเห็น อวัยวะภายใน สมบูรณ์และเริ่มทำงาน ยกเว้นปอดที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์เต็มที่ ลำตัวยาว 18 นิ้ว น้ำหนัก 2.0 – 2.5 กิโลกรัม
เดือนที่ 9
ลูกน้อยพร้อมที่จะออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว หากลูกได้รับการดูแลเอาใจใส่ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ สุขภาพของลูกจะต้องดีเยี่ยมอย่างแน่นอน
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น หากเจ้าตัวเล็กได้รับควันบุหรี่ตั้งแต่อยู่ในท้อง
ทารกที่คลอดออกมาจะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าทารกปกติประมาณ 170 – 200 กรัม ความยาวเส้นรอบศีรษะ และช่วงไหล่มักสั้นกว่า ทารกปกติ และอาจมีความผิดปกติทางระบบประสาท และอาจเป็นโรคหัวใจแต่ กำเนิด เพราะนิโคตินจากบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดบริเวณรกหดตัว และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ทำให้ออกซิเจนที่ไปเลี้ยงทารกลดลง ทารกจะได้รับทั้งเลือดและออกซิเจนน้อยกว่าปกติ
ยิ่งไปกว่านั้น ทารกอาจมีโครงสร้างของสมองไม่สมบูรณ์ อ่อนแอ และมีปัญหาในพัฒนาการต่อไป ส่วนปอดของทารกจะไม่สมบูรณ์ เพราะสารพิษในบุหรี่จะไปทำลายปอด โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงที่มีการพัฒนาของปอด หนำซ้ำพิษของบุหรี่ยังส่งผลให้ทารกมีโอกาสเสี่ยงเกิดโรคไหลตายในเด็กสูงมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของโรคนี้
อย่างไรก็ตาม รกคือสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และทารกในครรภ์ หากแม่รับประทานอาหารที่ดี มีจิตใจเบิกบานแจ่มใส และได้รับแต่อากาศที่บริสุทธิ์ตลอดอายุครรภ์ เชื่อได้ว่าลูกน้อยจะต้องมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีอย่างแน่นอน
แต่หากคุณแม่ตั้งครรภ์ยังคงสูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่อย่างต่อเนื่องจากคน ใกล้ชิด โดยเฉพาะคุณพ่อ ลูกก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยตั้งแต่ในครรภ์ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เพราะสารพิษในควันบุหรี่จะสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ทารกในครรภ์โดยผ่านทางรกได้ข้อมูล: เอกสารพิมพ์เผยแพร่เพื่อความรู้ทางสุขภาพเรื่อง “เพื่อลูกรัก เลิกสูบบุหรี่เถอะ”โดยมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
อย่าให้ บุหรี่ พิษร้าย ทำอันตราย
เจ้าตัวน้อย !
วินาทีแรกที่คนสองคนรู้ตัวว่ากำลังจะเป็นพ่อแม่นั้น แน่นอนว่าคงตื่นเต้นไม่น้อย โดยเฉพาะแม่ผู้ที่ต้องอุ้มท้องถึง 9 เดือน ทั้งนี้ตลอดระยะเวลา 9 เดือน ที่แม่ต้องอุ้มท้อง พ่อต้องคอยดูแลนั้น ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่พ่อแม่ต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์มากที่สุดอย่างไรก็ดี นอกจากเรื่องอาารการกินแล้ว เรื่องที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ เรื่องของควันบุหรี่ที่พ่อหรือแม่บางคนยังคงสูบอยู่ หรือไม่ก็รับควันบุหรี่ในฐานะนักสูบมือสอง แต่ก่อนที่จะรับรู้ถึงผลร้ายของบุหรี่ มาดูกันก่อนว่า ช่วง 9 เดือน ของลูกนั้น ถ้าไม่ได้รับควันบุหรี่เลย จะเป็นอย่างไรกันบ้าง
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
เดือนที่ 1
แม้ว่าลูกจะยังไม่มีอวัยวะชัดเจน แต่ก็มีหัวใจและเนื้อเยื่อระบบประสาทแล้ว ซึ่งจะพัฒนาเป็นสมองและไขสันหลัง ทางเดินอาหาร
อวัยวะรับสัมผัส แขน ขา จะเริ่มก่อเป็นรูปร่าง รูปร่างของลูกน้อยคล้ายลูกอ๊อด และมีขนาดเท่าเมล็ด ข้าว
เดือนที่ 2หัวใจของลูกเริ่มทำงานแล้ว และมีการสร้างแขน ขา นิ้วมือ นิ้วเท้าเริ่มก่อตัว และเริ่มมีการสร้างกระดูก ลำตัวยาวประมาณ 1 – 1.5 นิ้ว
น้ำหนักประมาณ 10 กรัม
เดือนที่ 3
รูปร่างของลูกเริ่มชัดเจนมากขึ้น มีการพัฒนาของอวัยวะ เช่น ระบบการไหล เวียนเลือด และระบบขับถ่ายปัสสาวะ อวัยวะสืบพันธุ์เริ่มก่อตัวเป็นรูปร่าง ลำ ตัวยาวประมาณ 2.5 – 3 นิ้ว น้ำหนัก 15 กรัม
เดือนที่ 4
ลูกน้อยเริ่มมีปฏิกิริยาทางร่างกาย เช่น การดูดและการกลืน ลำตัวเจริญมาก ขึ้น นิ้วมือและนิ้วเท้า เริ่มปรากฏชัด เนื้อเยื่อฟันเริ่มก่อตัว ลำตัวยาวประมาณ 4 นิ้ว
เดือนที่ 5
ลำตัวของลูกเริ่มมีขนอ่อนปกคลุม เริ่มมีผมที่ศีรษะและขนคิ้ว มีไข ปกคลุมตามตัว ลำตัวยาวประมาณ 8 – 10 นิ้ว
เดือนที่ 6
ใบหน้าของลูกมีการพัฒนาจนสมบูรณ์ ปิดเปิดตาได้ เริ่มมองเห็นนิ้วมือและ นิ้วเท้าชัดเจน แต่ปอดยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ลำตัวยาวมากขึ้น น้ำหนัก 800 กรัม
เดือนที่ 7
มีการสร้างเม็ดเลือดแดง และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง ลูกสามารถดูดนิ้วหัวแม่มือตัวเองได้ ร้องไห้ได้ ตอบรับการกระตุ้นได้ดี โดยเฉพาะความเจ็บปวด แสง สว่าง และเสียงดัง น้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม
เดือนที่ 8
ลูกจะมีขนาดศีรษะโตเต็มที่ สามารถได้ยินเสียงและมองเห็น อวัยวะภายใน สมบูรณ์และเริ่มทำงาน ยกเว้นปอดที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์เต็มที่ ลำตัวยาว 18 นิ้ว น้ำหนัก 2.0 – 2.5 กิโลกรัม
เดือนที่ 9
ลูกน้อยพร้อมที่จะออกมาสู่โลกภายนอกแล้ว หากลูกได้รับการดูแลเอาใจใส่ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ สุขภาพของลูกจะต้องดีเยี่ยมอย่างแน่นอน
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
แล้วจะเกิดอะไรขึ้น หากเจ้าตัวเล็กได้รับควันบุหรี่ตั้งแต่อยู่ในท้อง
ทารกที่คลอดออกมาจะมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าทารกปกติประมาณ 170 – 200 กรัม ความยาวเส้นรอบศีรษะ และช่วงไหล่มักสั้นกว่า ทารกปกติ และอาจมีความผิดปกติทางระบบประสาท และอาจเป็นโรคหัวใจแต่ กำเนิด เพราะนิโคตินจากบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดบริเวณรกหดตัว และก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ทำให้ออกซิเจนที่ไปเลี้ยงทารกลดลง ทารกจะได้รับทั้งเลือดและออกซิเจนน้อยกว่าปกติ
ยิ่งไปกว่านั้น ทารกอาจมีโครงสร้างของสมองไม่สมบูรณ์ อ่อนแอ และมีปัญหาในพัฒนาการต่อไป ส่วนปอดของทารกจะไม่สมบูรณ์ เพราะสารพิษในบุหรี่จะไปทำลายปอด โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรก ซึ่งเป็นช่วงที่มีการพัฒนาของปอด หนำซ้ำพิษของบุหรี่ยังส่งผลให้ทารกมีโอกาสเสี่ยงเกิดโรคไหลตายในเด็กสูงมากขึ้น ซึ่งในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุของโรคนี้
อย่างไรก็ตาม รกคือสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และทารกในครรภ์ หากแม่รับประทานอาหารที่ดี มีจิตใจเบิกบานแจ่มใส และได้รับแต่อากาศที่บริสุทธิ์ตลอดอายุครรภ์ เชื่อได้ว่าลูกน้อยจะต้องมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดีอย่างแน่นอน
แต่หากคุณแม่ตั้งครรภ์ยังคงสูบบุหรี่หรือได้รับควันบุหรี่อย่างต่อเนื่องจากคน ใกล้ชิด โดยเฉพาะคุณพ่อ ลูกก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยตั้งแต่ในครรภ์ และอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ เพราะสารพิษในควันบุหรี่จะสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ทารกในครรภ์โดยผ่านทางรกได้ข้อมูล: เอกสารพิมพ์เผยแพร่เพื่อความรู้ทางสุขภาพเรื่อง “เพื่อลูกรัก เลิกสูบบุหรี่เถอะ”โดยมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น